วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Blog คืออะไร?

Blog คืออะไร?

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Blog คืออะไร? แตกต่างจากไดอารี่ online ไหม? แล้วทำไมคำๆนี้ถึงมาแรงจัง ไปไหนๆก็มีแต่ Blog สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่?

บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง
ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย – Wikipedia
สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด
Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่ง
Blog ส่วนใหญมักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บ ไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดู
Blog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของเรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้ :D 
Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก
โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนำข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง
แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทำตัวเป็น PR ให้กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย
ปัจจุบันในเมืองไทยมีผู้ให้บริการ Blog อยู่หลายที่ เช่น Bloggangexteen หรือ BlogKa
หรือต่างประเทศเช่น BloggerWordPressMySpaceแล้ววันนี้คุณมี Blog ของตัวเองแล้วหรือยัง?

http://www.pawoot.com/marketing-forum/index.php?showtopic=

องค์ประกอบของดนตรี

1.3 องค์ประกอบของดนตรี
         องค์ประกอบของดนตรี คือ ส่วนสำคัญพื้นฐานที่ทำให้เกิดเป็นดนตรีขึ้น ทั้งนี้โดยจะกล่าวถึงองค์ประกอบของดนตรีโดยรวม มิได้ยึดเอาหลักเกณฑ์ของดนตรีใดเป็นมาตราฐาน องค์ประกอบของดนตรีที่สำคัญประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้คือ เสียง ทำนอง เสียงประสาน จังหวะ และรูปแบบของดนตรี 
1.3.1 เสียง (Tone)         เป็นการยากที่จะกล่าวหรือระบุได้ว่าดนตรีเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด ทั้งนี้เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานมาอ้างอิงได้อย่างแน่ชัด จึงได้แต่เพียงสันนิษฐานและตั้งข้อสังเกตจากโบราณวัตถุหรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน โดยสันนิษฐานตามหลักการและเหตุผล และคำนึงถึงความเป็นไปได้มากที่สุด ข้อสันนิษฐานที่เกี่ยวกับกำเนิดของดนตรีมีดังนี้
        
ลักษณะเสียงที่เรียกว่า Tone นั้นจะมีความแตกต่างไปจากเสียงที่มีความหมายว่า Noise เนื่องจากลักษณะของการเกิดเสียงที่เรียกว่า Tone นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของอากาศอย่างสม่ำเสมอ ส่วนเสียงในความหมายว่า Noise นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของอากาศที่ไม่สม่ำเสมอ เสียงดนตรีไม่ว่าจะเป็นเสียงที่เกิดจากการเป่า การร้อง การดีด หรือการสี จะเป็นลักษณะเสียงที่เรียกว่า Tone เพราะการสั่นสะเทือนเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
     เสียงประกอบไปด้วยคุณสมบัติสำคัญ 4 ประการคือ ระดับเสียง ความสั้นยาวของเสียง ความดังเบาของเสียง และสีสันของเสียง
ระดับเสียง (Pitch)
               
ระดับเสียง หมายถึง ความสูงต่ำของเสียงในเชิงภายภาพ หากความถี่ของการสั่นสะเทือนเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดเสียงสูง ถ้าความถี่ของการสั่นสะเทือนเป็นลักษณะช้า จะทำให้เกิดเสียงต่ำ หูของมนุษย์สามารถแยกเสียงตั้งแต่ระดับความถี่ของการสั่นสะเทือน 16 ครั้ง / วินาที จนถึง 20,000 ครั้ง / วินาที
ความสั้น - ยาวของเสียง (Duration)
               
เสียงดนตรีจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของความสั้นยาวของเสียง กล่าวคือบางครั้งเราจะได้ยินลักษณะของการลากเสียงยาวๆ หรือบางครั้งก็จะเป็นลักษณะห้วนๆสั้นๆ ความแตกต่างกันในลักษณะนี้เรียกว่า ความสั้น - ยาวของเสียง
ความดัง - เบาของเสียง (Dynamics)
               
เสียงดนตรีจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของความดัง - เบาของเสียงเช่นกัน กล่าวคือบางครั้งเราจะได้ยินการบรรเลงเพลงที่มีเสียงดัง อึกทึกครึกโครม ตรงกันข้ามบางครั้งก็จะได้ยินเสียงดนตรีที่นุ่มนวล หรือแผ่วเบา ลักษณะของการเกิดเสียงแบบนี้เรียกว่า ความดัง - เบาของเสียง
ความดัง - เบาของเสียง อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเบาหรือดังขึ้นทันทีทันใด หรืออาจจะเป็นลักษณะค่อยๆเบาลงหรือค่อยๆดังขึ้น ในดนตรีตะวันตกจะมีการบอกหรือแสดงเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องบรรเลงอย่างไร โดยใช้อักษรย่อจากคำเต็มในภาษาอิตาเลียน ได้แก่                             
                       fff      มาจากคำว่า   fortississimo     หมายถึง  ดังที่สุด
                       ff       มาจากคำว่า   fortissimo          หมายถึง  ดังมาก
                       f        มาจากคำว่า   forte                   หมายถึง  ดัง
                       mf     มาจากคำว่า   mezzo forte       หมายถึง  ปานกลางค่อนข้างดัง
                       mp    มาจากคำว่า   mezzo piano     หมายถึง  ปานกลางค่อนข้างเบา
                       p       มาจากคำว่า   piano                 หมายถึง   เบา
                       pp     มาจากคำว่า   pianissimo        หมายถึง   เบามาก
                       ppp   มาจากคำว่า   pianississimo   หมายถึง   เบาที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ความรู้พื้นฐานทางดนตรี

ความรู้พื้นฐานทางดนตรี  (The Fundamental of Music) 
วัตถุประสงค์
         1. เพื่อให้นิสิตทราบถึงการกำเนิด วิวัฒนาการ การแบ่งแยกประเภทของดนตรีและเครื่องดนตรี ตลอดจนการเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของมนุษย์
         2. เพื่อให้นิสิตทราบถึงองค์ประกอบของดนตรี


         ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่อยู่เคียงคู่โลกมาช้านาน และด้วยมันสมองที่ชาญฉลาดของมนุษย์ จึงได้สร้างสรรค์ดนตรีที่สวยงามขึ้นในแต่ละช่วงกาลเวลา
1.1 ดนตรีกับมวลมนุษยชาติ           ดนตรีอาจจะนิยามได้ว่า เป็นเสียงที่ร้อยเรียงอย่างมีระเบียบระบบ ซึ่งเมื่อไปกระทบกับโสตของผู้ฟัง สามารถทำให้เกิดความผันแปรทางอารมณ์ขึ้นมาได้ 
1.1.1 กำเนิดของดนตรี              เป็นการยากที่จะกล่าวหรือระบุได้ว่าดนตรีเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด ทั้งนี้เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานมาอ้างอิงได้อย่างแน่ชัด จึงได้แต่เพียงสันนิษฐานและตั้งข้อสังเกตจากโบราณวัตถุหรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน โดยสันนิษฐานตามหลักการและเหตุผล และคำนึงถึงความเป็นไปได้มากที่สุด ข้อสันนิษฐานที่เกี่ยวกับกำเนิดของดนตรีมีดังนี้

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มารู้จัก ลูกสูบ มอเตอร์ไซค์กัน


มารู้จัก ลูกสูบ มอเตอร์ไซค์กัน

  หากมีการพูดถึง ” ลูกสูบ ” มอเตอร์ไซค์แล้วพลพรรคผู้พิศมัยในความแรงและเร็วทั้งหลาย
อาจมีการคิดข้ามขั้นไปถึงการเพิ่มปริมาตรกระบอกสูบหรือเรียกกันติดปากว่า”ยัดลูกโต”
กันแทบทั้งนั้นเพราะนั่นคือคำตอบสุดท้ายของสเต็ปความแรงซึ่งขาซิ่งทั้งหลายต้องทำ
โดยเฉพาะปัจจุบันเรื่องการเปลี่ยนลูกสูบไปเป็นแบบข้ามรุ่น (ใหญ่กว่าเก่า) นั้นขยายวงออก
ไปกว้างมากๆ แต่ยังมีอีกมากที่ยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วลูกสูบมันมีหน้าที่อะไร มีรูปร่างหน้าตา
แบบไหนวันนี้เราพาทุกท่านมาทำความรู้จักเรื่อง ลูกสูบ มอเตอร์ไซค์กันเลย…

                         
                                            ลูกสูบมอเตอร์ไซค์

ลูกสูบเป็นชิ้นส่วนเคลื่อนที่ซึ่งการเคลื่อนตัวไปมาอยู่ในกระบอกสูบ มีหน้าที่ส่งถ่าย
กำลังผ่านก้านสูบไปยังเพลาข้อเหวี่ยง เป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้โดยจะปิดกั้น
ภายในกระบอกสูบกับห้องข้อเหวี่ยงตลอดจนการถ่ายเทความร้อนจากการเผาไหม้ไปยัง
ชิ้นส่วนอื่นๆ รวมทั้งรับแรงเบียดด้านข้าง ( Side Thrust)เนื่องจากก้านสูบเป็นตัวเปลี่ยน
แนวแรงจากการเลื่อนขึ้นลงมาเป็นการหมุนและยังจะทำหน้าที่ขับไล่ไอเสียออกจากห้อง
เผาไหม้ในขณะที่ช่องไอเสียหรือวาล์วไอเสียเปิด
วัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตลูกสูบ คือ
• เหล็กหล่อ ( Cast Iron )
 เหล็กผสม ( Steel Alloy )
 อลูมิเนียมผสม ( Cast Aluminium Alloy )
โดยเฉพาะในรถมอเตอร์ไซค์มักเป็นอลูมิเนียมผสม เพราะมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กหล่อ
และเหล็กผสมถึง 2-3 เท่า ในขณะเดียวกันก็สามารถระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย
การแบ่งลักษณะของตัวลูกสูบ แบ่งออกได้ 3 ส่วน คือ
• ส่วนบน : เซาะเป็นร่อง เรียกว่า “ร่องแหวน ” สำหรับไว้ใส่แหวนลูกสูบ
• ร่องแหวนบนสุด เป็นร่องแหวนอัด ( Compression Ring Groove )
• ร่องแหวนล่างสุด เป็นร่องแหวนน้ำมัน ( Oil Scraper Ring Groove )
ภายในร่องแหวนน้ำมันนี้จะมีรูให้น้ำมันไหลผ่านเข้าและออกขนาดและจำนวน
ร่องจะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ จะมีเพียง 1 หรือ 2 ร่อง
เท่านั้น แต่หากเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ จะเพิ่มเป็น 2 – 3 ร่อง

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิธีการสังเกตุ และ หาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ

วิธีการสังเกตุ และ หาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 
เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก สตาร์ทไม่ติด 
1.ไม่มีกำลังอัด- ระยะห่างของ กระเดื่องวาล์วไม่ถูกต้อง
- ปลอกวาล์วสึก
- วาล์วทำงานผิดพลาด
- แหวนลูกสูบ , เสื้อสูบหลวม 
2.ไฟไม่ออกหัวเทียนหรือ ทองขาว
- หัวเทียนสกปรก
- หน้าทองขาวสกปรก
- จังหวะการจุดระเบิดผิดพลาด
- คอยล์เสื่อม
- ไฟลัดวงจรในคอนเดนเซอร์ 
3.น้ำมันไม่ลงคาร์บูเรเตอร์ 
- ท่อส่งน้ำมันตัน
- ลูกลอยชำรุด
- ก๊อกน้ำมันตัน 

เครื่องยนต์มีเสียงดัง
1.เสียงดังจากกระเดื่องวาล์ว 
- ตั้งวาล์วห่างเกินไป
- สปริงวาล์วหัก
- ลูกเบี้ยวเป็นรอยหรอไหม้ 
2.เสียงดังจากโซ่ราวลิ้น 
- โซ่ราวลิ้นหย่อน
- เฟืองราวลิ้นสึก
- ตัวเร่งชำรุด 
3.เสียงดังในกระบอกมาก 
- ห้องเผาไหม้มีเขม่าจับมาก
- สลับลูกสูบหลวม
- ตั้งไฟแก่เกินไป 
4.เสียงจากคลัตซ์ 
- น๊อตคลัตซ์ขันไม่แน่น
- จานและเฟืองคลัตซ์สึกหรอ ไม่เรียบ 

10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ ที่ขาแว้นนิยมนำมาแต่งมากที่สุด

10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ ที่ขาแว้นนิยมนำมาแต่งมากที่สุด


 ขาแว้นทั้งหลายคงจะมีรถมอเตอร์ไซค์ในดวงใจของแต่ละคนกันอยู่แล้วใช่มั้ยละครับ ซึ่งบางคนก็จะชื่นชอบความเร็ว แรง บางคนก็ชอบความสวยงาม ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนกันไป และวันนี้ BoxzaRacing จะพาขาแว้นมาพบกับ 10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขาซิ่งนิยมนำมาตกแต่ง โมดิฟายกันมาที่สุด ส่วนจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลย
1. Honda MSX 125


 เรียกว่ากำลังได้รับความนิยมสูงสุดในวงการขาแว้นกันเลยก็ว่าได้ เพราเจ้า MSX มาพร้อมความสวย และความกะทัดรัด คล่องแคล่วแถมด้วยความแรงอีกต่างหาก จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Honda MSX เป็นเจ้าแห่งท้องถนนของ
ขาแว้นบ้านเราตัวจริง

2. Kawasaki KSR


หากมี MSX ก็ต้องมีคู่แข่งตลอดกาลอย่างเจ้า Kawasaki KSR แน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากรูปทรงอันสวยงาม และความแรงของมันนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าเจ้า MSX ซะทีเดียว ขาแว้นบ้านเราจึงไม่พลาดที่จะนำมันมาตกแต่งกัน

3. Honda Wave


จะขาดรถบ้านคู่ใจขาแว้นเมืองไทยกันได้อย่างไร อย่างเจ้า Honda Wave ซึ่งในบ้านเราก็ถือว่าได้รับความนิยมสูงมาเป็นเวลายาวนาน มีกันทุกบ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติที่มากมายของมัน จะด้วยความสวยงาม หรือความทนทานนี้เอง ขาแว้นทั้งหลายก็ไม่พลาดที่จะนำมันมาตกแต่งเพิ่มความสวยงามและความแรงให้แก่เจ้ารถตลาดคันนี้

4. Honda Click


เจ้า Honda Click ถือว่าได้รับความนิยมจากขาแว้นทั้งหลายมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน ซึ่งด้วยรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว สวยงาม แถมความแรงของมันยังไม่ธรรมดาอีกด้วย จึงไม่พลาดที่จะติดอันดับรถที่ได้รับความนิยมจากเด็กแว้นทั้งหลาย
5. Yamaha Fino


จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อครั้งที่ Yamaha Fino เปิดตัวออกมาในช่วงแรกๆนั้น ยอดขายของมันถือว่าไม่ได้มากมายซักเท่าไหร่นัก แต่หลังจากนั้นไม่นานทั่วบ้านทั่วเมืองของเราก็ยอมรับในความน่ารักและมีเสน่ห์ของเจ้า Yamaha Fino ได้อย่างไม่มีข้อกังขา และในตอนนี้เจ้า Fino นี้ก็ได้ครอบครองหัวใจของขาแว้นทั้งหลายกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มาลองทำกันนะ

การเปลี่ยน"หัวเทียน"รถจักรยานยนต์ง่ายๆด้วยตนเอง




การเปลี่ยน"หัวเทียน"รถจักรยานยนต์ง่ายๆด้วยตนเอง


เคยพบกับปัญหาเหล่านี้หรือไม่ เอ๊ะ!ทำไมสตาทร์รถแล้วสตาทร์ไม่ติด อันดับแรกที่เราควรเช็คเป็นอันดับแรกเลยคือ "หัวเทียน" นั่นเอง  
อันดับแรกเราก็มาดูกันนะครับว่าหัวเทียนของรถคุณอยู่ตรงไหน แน่นอนว่าจะอยู่ตรงแถวๆเครื่องจะมีปลั๊กสีดำ หุ้มเอาใว้ หรือบางคันอาจจะเป็น สีแดง สีน้ำเงินก็ได้ แล้วแต่ยี่ห้อของปลั๊กหัวเทียน 
เรามาเริ่มกันเริ่มดีกว่าครับ
อันดับแรก : ใช้ไขขวงรื้อชุดสีที่ปิดอยู่ออกมาซะก่อน

                                      

                 ไขน๊อตตัวแรกที่อยู่ข้างบนออกมา
                                        


รู้จักคอมพิวเตอร์ (วีดีโอ)




https://www.youtube.com/watch?v=edPJcqN5pXA

คอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ (อังกฤษcomputer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์  เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย
คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บข้อมูลไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) สมัยใหม่หลายร้อยเครื่องรวมกัน
คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่นี้ผลิตขึ้นโดยใช้วงจรรวม หรือวงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมีความจุมากกว่าสมัยก่อนล้านถึงพันล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่องใช้พื้นที่เพียงเศษส่วนเล็กน้อยเท่านั้น คอมพิวเตอร์อย่างง่ายมีขนาดเล็กพอที่จะถูกบรรจุไว้ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์มือถือนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหากจะมีคนพูดถึงคำว่า "คอมพิวเตอร์" มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของยุคสารสนเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีคอมพิวเตอร์ชนิดฝังอีกมากมายที่พบได้ตั้งแต่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามจนถึงเครื่องบินบังคับ และของเล่นชนิดต่าง ๆ จนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม

ประวัติของการคำนวณโดยใช้คอมพิวเตอร์

มีการบันทึกไว้ว่า ครั้งแรกที่มีการใช้คำว่า "คอมพิวเตอร์" คือเมื่อ ค.ศ. 1613 ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ทำหน้าที่คาดการณ์ หรือคิดคำนวณ และมีความหมายเช่นนี้เรื่อยมาจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 และตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 มา ความหมายของคำว่าคอมพิวเตอร์นี้เริ่มมีใช้กับเครื่องจักรที่ทำหน้าที่คิดคำนวณมากขึ้น

คอมพิวเตอร์ยุคแรกที่มีฟังก์ชันจำกัด

ประวัติของคอมพิวเตอร์สมัยใหม่นั้นเริ่มต้นจากเทคโนโลยีสองชนิดที่แตกต่างกัน ได้แก่ การควายคำนวณโดยอัตโนมัติ กับการคำนวณที่สามารถโปรแกรมได้ (หมายถึงสร้างวิธีการทำงานและปรับแต่งได้) แต่ระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าเทคโนโลยีชนิดใดเกิดขึ้นก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการคำนวณแต่ละชนิดนั้นไม่มีความสอดคล้องกัน อุปกรณ์บางชนิดก็มีความสำคัญที่จะเอ่ยถึง อย่างเช่นเครื่องมือเชิงกลเพื่อการคำนวณบางชนิดที่ประสบความสำเร็จและยังใช้กันอยู่หลายศตวรรษก่อนที่จะมีเครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ อาทิลูกคิดของชาวสุเมเรียนที่ถูกออกแบบขึ้นราว 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ชนะการแข่งขันความเร็วในการคำนวณต่อเครื่องคำนวณตั้งโต๊ะเมื่อ ค.ศ. 1946 ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในคริสต์ทศวรรษ 1620 มีการประดิษฐ์สไลด์รูล ซึ่งถูกนำขึ้นยานอวกาศในภารกิจของโครงการอะพอลโลถึง 5 ครั้ง รวมถึงเมื่อครั้งที่สำรวจดวงจันทร์ด้วย นอกจากนี้ยังมี เครื่องทำนายตำแหน่งดาวฤกษ์ (Astrolabe) และ กลไกอันติคือเธรา ซึ่งเป็นเครื่องคำนวณ (คอมพิวเตอร์) เกี่ยวกับดาราศาสตร์ยุคโบราณที่ชาวกรีกเป็นผู้สร้างขึ้นราว 80 ปีก่อนคริสตกาล ที่มาของระบบการสั่งการโปรแกรมเกิดขึ้นเมื่อ ฮีโรแห่งอเล็กซานเดรีย (c.10-70 AD) นักคณิตศาสตร์ชาวกรีกสร้างโรงละครที่ประกอบด้วยเครื่องจักร ใช้แสดงละครของขวัญความยาว 10 นาที และทำงานโดยมีกลไกเชือกและอิฐบล็อกทรงกระบอกที่ซับซ้อน ซึ่งสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าจะชิ้นส่วนกลไกใดใช้ในการแสดงฉากใดและเมื่อใด
ราว ๆ ปลายศตวรรษที่ 10 สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2 นักบวชชาวฝรั่งเศส ได้นำลิ้นชักบรรจุอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่จะตอบคำถามได้ว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ เมื่อถูกถามคำถาม (ด้วยเลขฐานสอง)  ซึ่งชาวมัวร์ประดิษฐ์ไว้กลับมาจากประเทศสเปน ในศตวรรษที่ 13 นักบุญอัลแบร์ตุส มาญุส และโรเจอร์ เบคอน นักปราชญ์ชาวอังกฤษ ได้สร้างหุ่นยนต์แอนดรอยด์ (android) พูดได้ โดยไม่ได้พัฒนาใด ๆ ต่ออีก (นักบุญอัลแบร์ตุส มาญุส บ่นออกมาว่าเขาเสียเวลาเปล่าไป 40 ปีในชีวิต เมื่อนักบุญโทมัส อควีนาสตกใจกับเครื่องนี้และได้ทำลายมันเสีย) 
ในปี ค.ศ. 1642 แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีการประดิษฐ์เครื่องคำนวณของปาสคาลซึ่งเป็นเครื่องคำนวณตัวเลขเชิงกล  เป็นอุปกรณ์ที่จะสามารถคำนวณโดยใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์โดยไม่ต้องพึ่งสติปัญญามนุษย์ เครื่องคำนวณเชิงกลนี้ยังถือเป็นรากฐานของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ในสองทาง แรกเริ่มนั้น ความพยายามที่จะพัฒนาเครื่องคำนวณที่มีสมรรถภาพสูงและยืดหยุ่น ซึ่งทฤษฎีนี้ถูกสร้างโดยชาร์ลส แบบเบจ และได้รับการพัฒนาในเวลาต่อมา นำไปสู่การพัฒนาเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่) ขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 และในขณะเดียวกัน อินเทล ก็สามารถประดิษฐ์ ไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเป็นหัวใจสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์หากไม่คำนึงถึงขนาดและวัตถุประสงค์ขึ้นได้โดยบังเอิญระหว่างการพัฒนาเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ บิซิคอม ที่พัฒนาสืบต่อจากเครื่องคำนวณเชิงกลโดยตรง